โอนลอย คืออะไร ? และต้องทำอย่างไร

วิธีการโอนรถยนต์สุดฮิต ! การโอนลอย จะมีวิธีทำอย่างไร และสามารถใช้ในการโอนรถยนต์ได้จริงไหม เราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

โอนลอย คืออะไร และต้องทำอย่างไรบ้าง

ในการซื้อขายรถยนต์มือสอง หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “โอนลอย” อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าหมายถึงอะไร มีขั้นตอนอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง การโอนลอยถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อและผู้ขายควรรู้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโอนลอยอย่างครบถ้วน

โอนลอย คืออะไร

โอนลอย หมายถึง การที่เจ้าของรถยนต์เซ็นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ (เช่น แบบฟอร์มสัญญาซื้อขายหรือหนังสือยินยอมโอน) และมอบสำเนาทะเบียนรถให้กับผู้ซื้อเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้มีการไปดำเนินการโอนชื่อเจ้าของใหม่ที่กรมการขนส่งทางบกในทันที กล่าวคือ รถคันนั้นยังคงมีชื่อเจ้าของเก่าอยู่ในทะเบียน แม้ว่าผู้ซื้อจะได้รับรถไปใช้งานแล้วก็ตาม

ทำไมถึงมีการโอนลอย

การโอนลอยมักเกิดขึ้นเพื่อความสะดวกของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น

• ผู้ขายต้องการขายรถออกไปทันที โดยไม่เสียเวลาเดินทางไปกรมการขนส่งทางบก

• ผู้ซื้ออาจยังไม่สะดวกดำเนินการโอน หรือยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะโอนเป็นชื่อตนเองหรือโอนไปให้บุคคลอื่นต่อ

• รถที่ซื้อมาอาจถูกส่งต่อไปขายอีกทอดหนึ่ง เช่น ในกรณีของเต็นท์รถหรือผู้ค้ารถยนต์มือสอง

ขั้นตอนการทำโอนลอย

หากผู้ขายตกลงทำโอนลอยกับผู้ซื้อ ขั้นตอนหลัก ๆ จะมีดังนี้

1. ผู้ขายกรอกเอกสารสัญญาซื้อขายและหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ (แบบฟอร์มตามกรมการขนส่งทางบกกำหนด) พร้อมลงลายมือชื่อ

2. จัดเตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และเล่มทะเบียนรถ

3. ส่งมอบรถและเอกสารทั้งหมดให้ผู้ซื้อ เพื่อให้สามารถนำไปดำเนินการโอนที่กรมการขนส่งได้ในภายหลัง

4. ผู้ซื้อสามารถนำเอกสารเหล่านี้ไปโอนชื่อเป็นของตนเองหรือโอนให้บุคคลอื่นตามความต้องการ

ข้อดีและข้อเสียของการโอนลอย

แม้การโอนลอยจะช่วยอำนวยความสะดวก แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา

ข้อดี

• ประหยัดเวลาและขั้นตอน ไม่ต้องไปดำเนินการโอนทันที

• ผู้ขายสามารถขายรถออกได้เร็วขึ้น

• ผู้ซื้อที่เป็นผู้ค้ารถสามารถนำรถไปขายต่อได้ง่าย

ข้อเสีย

• หากผู้ซื้อไม่รีบโอนชื่อ และเกิดอุบัติเหตุหรือการกระทำผิดกฎหมาย รถยังเป็นชื่อผู้ขายเดิม อาจทำให้ผู้ขายเดิมมีปัญหาทางกฎหมายตามมา

• ภาษีรถยนต์และค่าปรับต่าง ๆ อาจยังถูกส่งไปถึงเจ้าของเก่า

• เสี่ยงต่อการถูกนำรถไปใช้ในทางที่ผิด และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือของเจ้าของเดิม

ข้อควรระวังในการโอนลอย

เพื่อความปลอดภัย หากจำเป็นต้องทำโอนลอยควรระวัง ดังนี้

• ควรทำสัญญาซื้อขายที่มีรายละเอียดครบถ้วน ระบุวันที่และเงื่อนไขชัดเจน

• จัดเก็บหลักฐานการขาย เช่น สำเนาเอกสารโอนและหลักฐานการรับเงิน

• ติดตามผู้ซื้อให้ดำเนินการโอนชื่อโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

• หากไม่มั่นใจ ควรเลือกการโอนแบบปกติที่ไปดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบกทันที จะปลอดภัยที่สุด

โอนลอยคือการขายรถที่ผู้ขายเซ็นโอนและส่งมอบเอกสารให้ผู้ซื้อ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อเจ้าของในทะเบียนทันที แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจสร้างปัญหาตามมาได้ การโอนลอยจึงควรใช้ในกรณีที่จำเป็นและมีความน่าเชื่อถือระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย และที่สำคัญที่สุดคือการเก็บหลักฐานและติดตามให้ผู้ซื้อโอนชื่อโดยเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หรือการเงินสะดุดในช่วงนี้ สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกหนึ่ง ตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหมดปัญหาทางเรื่องการเงิน เพียงนำรถยนต์มาปรึกษากับทางเรา สินเชื่อรถแลกเงิน Ilease ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็วทันใจ