ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

ดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ   อนุมัติง่าย อนุมัติไว   ได้วงเงินเต็ม ได้วงเงินสูง

อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

“โอนชื่อเจ้าของรถยนต์” ต้องเตรียมเอกสารและควรดำเนินการอย่างไร ?

โอนชื่อเจ้าของรถยนต์ เรื่องสำคัญที่คนซื้อรถใหม่ควรรู้เบื้องต้น ทั้งขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นต้องดำเนินการมีอะไรบ้าง มาชมกัน

โอนชื่อเจ้าของรถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไร และควรดำเนินการอย่างไร

เมื่อมีการซื้อ–ขายรถยนต์ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ เช่น ได้รถจากญาติ ซื้อรถต่อจากเต็นท์ หรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อผู้ถือสิทธิ์ในไฟแนนซ์ ขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำคือ โอนชื่อเจ้าของรถให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของที่แท้จริง และไม่มีปัญหาในภายหลัง

การโอนชื่อรถไม่เพียงป้องกันปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง เช่น ค่าปรับ พ.ร.บ. หรือการถูกเรียกเก็บภาษีแทนเจ้าของเก่า แต่ยังช่วยให้การต่อภาษี ประกันภัย และการทำธุรกรรมอื่นๆ เป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย

การโอนชื่อเจ้าของรถคืออะไร ?

“การโอนชื่อเจ้าของรถ” คือการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์จากเจ้าของเดิมไปยังเจ้าของใหม่ โดยต้องทำผ่านกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่รถจดทะเบียนอยู่

ขั้นตอนนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการ ซึ่งตามกฎหมายต้องดำเนินการภายใน 15 วัน นับจากวันที่ซื้อขายรถ เพื่อป้องกันค่าปรับกรณีเกินกำหนด

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนชื่อเจ้าของรถยนต์

เพื่อให้ขั้นตอนของการโอนชื่อเจ้าของรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่ต้องเตรียมขึ้นอยู่กับกรณีการซื้อขายหรือเปลี่ยนชื่อ โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักคือ

1. กรณีบุคคลธรรมดาโอนให้บุคคลธรรมดา กรณีนี้มีเอกสารที่ผู้โอน หรือเจ้าของรถเดิม ต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับเจ้าของรถคนใหม่ เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนนี้ มีดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ไปดำเนินการเอง)
  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
  • ใบเสร็จค่าซื้อขายรถ หรือหลักฐานการชำระเงิน (ถ้ามี)
  • หนังสือรับรองการขายรถ (แบบคำขอโอนและรับโอน) พร้อมลงชื่อทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ ผู้ที่รับโอน หรือเจ้าของรถคันใหม่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องเอกสาร มีดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
  • หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบผู้อื่นไปดำเนินการแทน)
  • แบบคำขอโอนและรับโอน (ลงลายมือชื่อครบถ้วนทั้งผู้โอนและผู้รับโอน)

2. กรณีนิติบุคคลหรือบริษัท นอกจากการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างบุคคลต่อบุคคลแล้ว หากผู้โอนหรือผู้รับโอนเป็นบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือองค์กร ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้

  • หนังสือรับรองนิติบุคคล (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
  • บัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
  • หนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
  • ตราประทับบริษัท (กรณีใช้ในการเซ็นเอกสาร)

3. กรณีโอนภายในครอบครัว ถ้าเป็นการโอนชื่อรถภายในครอบครัว เช่น พ่อ–แม่โอนให้ลูก หรือสามี–ภรรยา อาจต้องแสดงเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนสมรส เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอาจยกเว้นภาษีการโอนบางกรณี

ขั้นตอนการโอนชื่อเจ้าของรถยนต์

เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่รถจดทะเบียนอยู่ หรือที่สำนักงานขนส่งใกล้เคียง โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ตรวจสภาพรถยนต์ ก่อนทำการโอน ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถของกรมการขนส่ง (ตรอ.) หรือที่สำนักงานขนส่ง เพื่อยืนยันว่าเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ตรงกับข้อมูลในเล่มทะเบียน อย่างไรก็ตามมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถยนต์ ดังนี้

  • รถใหม่ที่อายุไม่เกิน 7 ปี (นับจากปีจดทะเบียน) อาจไม่ต้องตรวจสภาพ
  • รถเก่าหรือรถที่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ต้องตรวจทุกคัน

2. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ ยื่นเอกสารทั้งหมดที่ช่องงานทะเบียนรถ เพื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและข้อมูลในเล่มทะเบียน ก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอนต่อไป

3. ชำระค่าธรรมเนียม เมื่อเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะเรียกชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมการโอนชื่อ 100 บาท
  • ค่าคำขอ 5 บาท
  • ค่าจัดทำเอกสารหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี)

4. รับเล่มทะเบียนที่แก้ไขชื่อเจ้าของใหม่ หลังชำระเงิน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการแก้ไขชื่อในเล่มทะเบียนเป็นของผู้รับโอน และมอบเล่มคืนให้ทันที บางพื้นที่อาจใช้เวลาในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ภายในวันเดียว

ข้อควรระวังในการโอนชื่อเจ้าของรถ

  1. อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้ตรงกัน : ตรวจสอบชื่อ–นามสกุล เลขบัตรประชาชน และเลขทะเบียนรถให้ถูกต้องก่อนลงนาม
  2. ควรโอนชื่อให้เสร็จภายใน 15 วัน : หากเกินกำหนดอาจมีค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรถยนต์
  3. อย่าโอนลอยโดยเด็ดขาด : การซื้อรถแต่ยังไม่โอนชื่อเป็นของตนเอง มีความเสี่ยงสูง เช่น รถเกิดอุบัติเหตุหรือทำผิดกฎหมาย เจ้าของเก่ายังอาจถูกเรียกรับผิดชอบได้
  4. อย่าลืมต่อภาษีและประกันภัยหลังโอนชื่อ : หลังจากเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้ว ควรต่อภาษี พ.ร.บ. และประกันภัยในชื่อเจ้าของใหม่ เพื่อความถูกต้องและความคุ้มครองทางกฎหมาย

การ โอนชื่อเจ้าของรถ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรถและความรับผิดชอบทางกฎหมาย การเตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสภาพรถ และยื่นเอกสารที่กรมการขนส่งทางบกด้วยตนเองจะช่วยให้กระบวนการเสร็จสิ้นรวดเร็วและถูกต้อง

สำหรับท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หรือการเงินสะดุดในช่วงนี้ “สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกหนึ่ง ตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหมดปัญหาทางเรื่องการเงิน เพียงนำรถยนต์มาปรึกษากับทางเรา “สินเชื่อรถแลกเงิน Ilease ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็วทันใจ

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

ดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ   อนุมัติง่าย อนุมัติไว   ได้วงเงินเต็ม ได้วงเงินสูง

อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน