2025 ปีนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังน่าใช้อยู่ไหม ? มาศึกษากัน

2025 มาปีนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังน่าใช้อยู่ไหม? มาศึกษากัน

ก้าวสู่ครึ่งทางของปี 2025 กันแล้ว สำหรับคนที่มีแผนเกี่ยวกับการออกรถใหม่ป้ายแดง เชื่อว่าหลายคนน่าจะเริ่มให้ความสนใจ รถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมกันอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รถไฟฟ้านั้นถือว่าเป็นทางเลือกที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ทำให้มีตัวเลือกจากหลายค่ายและหลายรุ่น แต่ในปี 2025 นี้ จะยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไหม หรือกระแสเริ่มตกไปแล้ว ลองไปดูกันในบทความนี้

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025

ในปี 2025 ตลาด EV หรือรถไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไทยที่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านนโยบาย “30@30” ซึ่งเป็นนโยบายที่ตั้งเป้าให้รถยนต์ใหม่ในปี 2030 เป็น EV อย่างน้อย 30% ของจำนวนผู้ใช้รถยนต์ทั้งหมดทำให้แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรามีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มจำนวนสูงขึ้น โดยสิ่งที่น่าจับตามองในตลาดรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในปี 2025 ดังนี้

• ค่ายรถยนต์เปิดตัว EV รุ่นใหม่มากกว่า 20 รุ่นในไทย

• สถานีชาร์จเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะรองรับการชาร์จแบบ DC Fast Charge

• ราคารถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นเริ่มเท่ากับรถน้ำมัน

• ราคาค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มลดลง ทำให้หลายคนพิจารณาในเรื่องนี้

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า

เพื่อประกอบการตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมข้อดีและข้อควรพิจารณาของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ที่คนอยากซื้อรถต้องรู้

1. ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว

ค่าไฟในการชาร์จยังถูกกว่าน้ำมันต่อระยะทาง ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่ารถน้ำมัน ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หัวเทียน และอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้รถยนต์ระบบสันดาปแล้ว ถือว่ามีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าทั้งค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษาเมื่อต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ

2. เทคโนโลยีก้าวหน้า

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ชาร์จไว วิ่งได้ไกลกว่าเดิม มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ADAS หรือระบบจอดอัตโนมัติ และยังสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบันรองรับการใช้งานได้ตลอดเวลา 

3. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จึงไม่มีการปล่อยมลพิษขณะใช้งาน ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในเมือง และไม่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว 

ข้อจำกัดที่ยังต้องพิจารณา

นอกจากข้อดีแล้ว ข้อควรพิจารณาก็ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าในปี 2025 นี้

1. ศูนย์ซ่อมหรือศูนย์บริการยังมีตัวเลือกน้อย

แม้เมืองใหญ่จะมีสถานีชาร์จเพียงพอ แต่ตามต่างจังหวัดหรือเส้นทางระหว่างจังหวัดอาจยังต้องวางแผนเดินทางล่วงหน้าให้ดี เพราะหากรถมีปัญหาหรือพลังงานไม่เพียงพอ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายรถไฟฟ้าได้

2. แบตเตอรี่เสื่อมตามเวลา

แม้จะมีการรับประกันแบตเตอรี่ 8–10 ปี แต่หากใช้งานหนักหรือเป็นรถยนต์ที่ต้องใช้งานทุกวัน อายุการใช้งานของแบตเตอรี่อาจน้อยกว่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ค่อนข้างสูง

3. EV มือสองยังมีความเสี่ยง

การเลือกซื้อรถไฟฟ้ามือสอง ยังคงเป็นทางเลือกที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะมูลค่าขายต่อยังไม่นิ่ง บางรุ่นหาศูนย์ซ่อมหรือชิ้นส่วนยาก และต้องตรวจสอบประวัติการดูแลแบตเตอรี่ให้ละเอียด

สรุป รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ยังเป็นทางเลือกที่น่าใช้ไหม?

หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหารถใหม่ ด้วยความจำเป็นในการใช้งานรถยนต์ การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ยังถือเป็นทางเลือกที่ ‘น่าสนใจ’ เพราะในระยะยาวการใช้รถไฟฟ้าถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาก หากดูแลรักษาและเข้าศูนย์ตามระยะ แต่หากคุณยังไม่ได้เร่งรีบหรืออยากพิจารณาตัวเลือกมากกว่านี้ ในอีก 1-2 ปี เราอาจจะได้เห็นรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่มีฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานมากกว่านี้ มาให้เป็นทางเลือกอีกแน่นอน 

สำหรับท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หรือการเงินสะดุดในช่วงนี้ “สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกหนึ่ง ตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหมดปัญหาเรื่องนี้ไป โดยสินเชื่อรถแลกเงินของ Ilease ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็วทันใจ ใช้เวลาไม่นานแน่นอน